จากการสำรวจและรวบรวมข้อมูลต่างๆ ทำให้ทางชุมชนชนได้ร่วมกันกำหนดรูปแบบที่เหมาะสมให้สำหรับนักท่องเที่ยวได้เป็นทางเลือกในการท่องเที่ยวทั้งหมด 2 เส้นทาง 3 รูปแบบกิจกรรม ด้วยกัน

เส้นทางที่ 1 ใช้ระยะเวลาในการเดินไป-กลับ 3 ชั่วโมง (ขากลับกลับทางเดิม)

เป็นระยะสั้นระหว่างทางนั้นมีพันธุ์ไม้ให้ศึกษาหลากหลาย อาทิ สมุนไพรชนิดต่าง ๆ พันธุ์ไม้ นอกจากนี้ระหว่างทางยังสามารถแวะน้ำตกได้ แต่ระหว่างทางนั้นก็จะมีกิจกรรมให้ทำตลอดเส้นทาง

เส้นทางที่ 2 ใช้ระยะเวลาในการเดินไป-กลับ 3 ชั่วโมง 

โดยเส้นทางนี้ขาไปเดินชมน้ำตกส่วนขากลับชมความงดงาม อุดมสมบูรณ์ของป่า เป็นระยะสั้นเช่นกันระหว่างทางนั้นจะเน้นศึกษาธรรมชาติและป่าโดยตรง แต่ระหว่างทางนั้นก็จะมีกิจกรรมให้ทำตลอดเส้นทาง

รูปแบบของกิจกรรม

กิจกรรมที่ 1 แบบไป-กลับ (วันเดียว) 

กลุ่มเป้าหมายของการท่องเที่ยวแบบนี้ คือ กลุ่มคนไทยหรือชาวต่างชาติที่เข้ามาโดยไม่มีกำหนดหรือแจ้งไว้ให้กับหมู่บ้านไว้ล่วงหน้า ซึ่งจะเข้ามาเที่ยวชมธรรมชาติและกิจกรรมต่างๆ กลุ่มที่เข้ามาท่องเที่ยวบริเวณน้ำตกซึ่งจะมีมากในช่วงวันหยุด ช่วงปิดภาคเรียน และช่วงเทศกาลต่างๆ เนื่องจากการเดินทางสะดวกสบายจึงสามารถมาในวันเดียวได้ ซึ่งกิจกรรมที่สำคัญในรูปแบบนี้จะอยู่ที่การท่องเที่ยวน้ำตกและการเดินป่าระยะสั้น เพื่อชมสมุนไพร เป็นต้น

กิจกรรมที่ 2 แบบทัศนศึกษา 

กลุ่มนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ จะเข้ามาศึกษาดูงานระบบบริหารจัดการการท่องเที่ยว หรือจัดการป่าชุมชนในขณะเดียวกันเรียนรู้วัฒนธรรมประเพณีของชุมชน สมุนไพร กลุ่มอาชีพต่างๆในหมู่บ้าน เรียนรู้วิถีชีวิต ขนบธรรมเนียมประเพณีวัฒนธรรม รวมทั้งเรื่องการจัดตั้งกองทุนต่างๆในหมู่บ้าน 

กิจกรรมที่ 3 แบบพักค้างคืน 

กลุ่มนักท่องเที่ยวนี้ต้องการสัมผัสกับวิถีชีวิตและธรรมชาติ โดยประกอบด้วยนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งจะติดต่อและจองที่พักล่วงหน้าทั้งผ่านบริษัททัวร์หรือโดยตรง ซึ่งนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้จะเข้ามาเพื่อเรียนรู้วิถีชีวิตของชุมชน ศึกษาธรรมชาติ ซึ่งจะมีกิจกรรมหลากหลายให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเลือกชม มีการเดินป่าสำรวจความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ ชมนก สมุนไพร สัตว์ป่า มีการฝึกทำอาหารร่วมกับเจ้าของบ้าน มีพิธีบายศรีสู่ขวัญ ชมการแสดงฟ้อน ดนตรีพื้นเมือง ทำบุญตักบาตร ปลูกต้นไม้ เป็นต้น